วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

ありのままで

        วันนี้ อยากจะนำเสนอมาก เพลงญี่ปุ่นที่ชอบมากที่สุดตอนนี้ เป็นเพลงแปลมาจากการ์ตูนดิสนีย์ เรื่อง frozen นั่นเอง เย้ เลยอยากจะลองนำเอาเนื้อเพลงมาดูสิว่า ในเพลงนี้ มีการใช้รูป んです ที่ตรงกับ 目標 ของอิฉันรึป่าว
เพลง ありのままで แปลจากเพลงภาษาอังกฤษ Let it go ค่ะ


ありのままの姿見せるのよ
ありのままの自分になるの

降り始めた雪は足跡消して
真っ白な世界に一人の私
風が心にささやくの
このままじゃダメなんだ

戸惑い傷つ誰にも打ち明けずに
悩んでたそれもも止めよう

ありのままの姿見せるのよ
ありのままの自分になるの
私は自由よ
これでいいの少しも寒くないわ

悩んでたことが嘘みたいね
だっても自由よ何でもできる
周りはこんなにも冷えてるのに
ほっとしているの寂しくないわ

ありのままの姿見せるのよ
ありのままの自分になるの
私は自由よ
これでいいの少しも寒くないわ

ずっとずっと泣いていたけど
きっときっと幸せになれる
もっと輝くの

ありのままの姿見せるのよ
ありのままの自分になるの
私は自由よ
これでいいの少しも寒くないわ
ありのままでいいの

       เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า んですในประโยคที่ว่า
このままじゃダメなんだと 
นั้น เป็นประโยคบอกสาเหตุ คือนางเอกบอก เพราะว่าไม่ไหวแล้วเป็นยังงี้ต่อไป เลยต้องปล่อยมันออกมา 



อืม หรือมันอาจจะมีความหมายเป็นอื่น แต่ในเซ้นของอิฉันเป็นเช่นนี้จริงๆ ใคร่ขอความเห็นจากผู้รู้ค่ะ ^^ เเต่ก็เป็นที่น่าสังเกตุที่ว่า んです จริงๆ มีหลายความหมาย แต่ทุกครั้งที่อิฉันเจอ อิฉันรับรู้ได้อย่างเดียวคือ บอกสาเหตุ หรือถามสาเหตุ อืม เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

เมื่อนิสิตไทยไปพูดภาษาญี่ปุ่นที่อินโดนีเซีย

        เมื่อมาถึงจุดๆ นี้แล้ว อิฉันมีความรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า เรื่องที่ดิฉันได้เลือกทำ เรื่องการใช้ んですจากการสนทนานั้น "ยาก มาก" เพราะนอกจากจะหาโอการสนทนาเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ยากแล้ว ในเวลาจริงที่เราได้สนทนา เป็นการยากมากที่สมองจะสามารถประมวลผลและสังเคราะห์เป็นแกรมม่าคำว่า んですออกมา ถึงแม้ว่าอิฉันจะพยายามใช้มากเท่าไร แต่ んですที่อิฉันใช้ ก็มีเพียงความหมายเดียว คือการใช้ลงท้ายประโยคที่อยากบอก หรืออยากถามสาเหตุ อาจเป็นไปได้ว่า เพราะนั่นคือความหมายแรกของ んです ที่อิฉันได้เคยเรียน เมื่อครั้งยังเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นใหม่ๆ
       
       แต่ถึงกระนั้น อิฉันก็จะไม่ขอยอมแพ้ ถึงแม้ว่าคะแนนจะกาก แต่อิฉันก็ได้ความรู้ และเรียนรู้ที่จะพยายาม เอาเป็นว่าจะไม่ทำเพื่อคะแนน แต่จะทำเพื่อตัวเอง จะขอทำเรื่องนี้ต่อไปอย่างดีที่สุด นะคะ ^^


      หลังจากที่ได้บรรยายความอึดอัดใจของตัวเองไปแล้ว จะขอเริ่มเนื้อหาเลยละกัน เมื่อวันที่ 17-22 ธันวาคมที่ผ่านมา อิฉันได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาที่ประเทศอินโดนีเซีย และมีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเพื่อนนักศึกษาชาวอินโดนีเซีย ที่สำคัญก็คือ ภาษาที่เราใช้สื่อสารกัน ไม่ใช่ภาษาอังกฤษค่ะ แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งนักษาชาวอินโด(ที่เรียนเอกญี่ปุ่น)พูดเก่งมากจนน่าตกใจ เมื่อสังเกตและได้พูดคุยแลกเปลี่ยนดูแบ้ว ดิฉันก็ตระหนักได้ว่า พวกเขา input เยอะค่ะ ส่วนมากก็รับมาจากเพลงญี่ปุ่น น่าแปลกใจที่พวกเขาสามารถร้องเพลงญี่ปุ่นกันได้ทุกคน ในขณะที่ในเอกของอิฉันมีความชอบที่หลากหลาย บางคนชอบญี่ปุ่นก็ร้องเพลงญี่ปุ่นได้ บางคนชอบเกาหลีก็พูดเกาหลีได้ ญี่ปุ่นก็เป็นเพียงสิ่งที่ต้องเรียนเท่านั้น ในเมื่ออิฉันมีโอกาสได้พูดเช่นนี้แล้ว เรื่อง んですจะไปไหนพ้นเล่า (อุวะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า)
 
        จากบทสนทนา
私:えと、タイは整形することは人気があります。韓国のはいゆうからの影響です。
インドネシア人1:でも、インドネシアではあまり整形しないです。はいゆうたちはしますが、ほかの人はしません。イスラム教は神からもらった体を変えるのは(1)だめなんです。
私:えっ、そうですか。
インドネシア人1:そうです。
インドネシア人2:えと、マプランさんは製形したいですか?
私:いいえ、このままで、もうきれいだと思っていますから、整形なんて、したく(2)ないんです。
インドネシア人2:ははは、そうですか。


 
       สำหรับ んですที่อิฉันได้ใช้ไปนั้น บอกเลยว่าไม่มั่นใจสักเท่าไร เนื่องจากว่าเป็นกฏที่ไม่เคยใช้ เลยไม่มั่นใจ ใช้แล้วแปลกๆ อย่าว่าแต่ไวยากรณ์รูป んです เลย ไวยากรณ์รูปอื่นที่พูดไป ก็ไม่มันใจ แต่ ณ จุดๆ นั้น บอกเลยว่าไม่ค่อยสนใจไวยากรณ์สักเท่าไร คือ พูดอะไรไปก็ได้ให้เราเข้าใจกันได้ ให้เราสื่อสารกันรู้เรื่องก็พอ

んです แรก ก็ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าเป็น んです บอกสาเหตุ
イスラム教は神からもらった体を変えるのは(1)だめなんです。

การใช้ んですของอิฉันในบทสนทนาครั้งนี้ มาจากกฏข้อนี้

ใช้ในรูป のです หรือ んです หรือ なのです เพื่ออธิบายมูลเหตุ หรือใช้แสดงการตัดสินใจที่เด็ดขาด
  • 高いと思ったから、買わなかったのです
    takai to omotta kara, kawanakatta no desu
    เพราะคิดว่าแพง จึงไม่ได้ซื้อครับ/ค่ะ
       ก็ดีใจนะคะ ที่เห็นว่าความพยายามใช้ของเราเป็นผล ตอนนี้ก็สามารถเลือกใช้ んです ในกฏข้ออื่น ที่ไม่ใช่แค่บอกสาเหตุได้แล้ว และก็จะพยายามต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ 

วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

タスク4飛行機

     มาถึงタスクนี้แล้ว เป็นการฝึกพูด เล่าเรื่องที่ตื่นเต้น คือเรื่องมีอยู่ว่า มีสตรีนางหนึ่ง จะไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน ปรากฏว่า นางไปไม่ทันจ้า ตกเครื่อง ปุ๊บ กลับมาบ้าน ปรากฏว่าดูในข่าว อะไรจ้ะ เครื่องบินที่นางควรจะขึ้น ตกจ้า นางรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แล้วยังไงล่ะ ต้องมาเล่าเป็นภาษาญี่ปุ่น ให้คนฟังรู้สึกตื่นเต้นในความโชคดีในโชคร้ายของเรา ยาก จุงเบย คำว่าเครื่องบินตกภาษาญี่ปุ่นคืออะไรยังไม่รู้เลยจ้า แล้วอิฉันจะเล่ายังไงให้มันตื่นเต้น แต่เอาวะ สู้!!

カノックトーン:えっ、なんで今ここにいるの?もうイギリスに行ったじゃないの?

ピムチャノック:それはね。。。不思議なことがあるの。本当は、私はイギリスへ行く予定があった。でも、朝寝坊で、乗らなければならない飛行機に間に合わない=合わなかった 空港についたと(รูป-たとมีด้วยหรอ??) 飛行機はもう出発したんだ。しょうがなくて、家に帰ったことにした。家に帰って、テレビを見て、なんと、ニュースによって、その飛行機が海に落ちちゃったんだ。それは悲しいニュースけど、私はうれしい=うれしかったป่ะ?もし、その飛行機に乗ったら、今、ここにいないかもしれないね。

    อย่างแรกเลยที่ได้เรียนรู้จากการฝึกครั้งนี้คือ
飛行機が海に落ちちゃったんだ 
ตลกค่ะ เครื่องบินตกตรงเกินไปมั๊ย มีแต่เด็กน้อยแหละค่ะพูด (อันที่จริงเราก็เด็กนะจ้ะ = =)  
แต่ต้องเป็นประโยคว่า 飛行機が墜落する ต่างหาก 
ก็ไม่ใช่คำศัพท์ที่ใช้อยู่ในชิวิตประจำวัน ก็เข้าใจค่ะ เลยไม่รู้จัก (อย่าให้ได้ใช้บ่อยเล๊ยย เครื่องบินตกเนี่ย) ความรู้สึกจากการทำน่ะหรือ อืม เล่าให้ตลกว่ายากแล้ว เล่าให้ตื่นเต้นยังยากกว่าอีก อืมมมม 
     แล้วยังมีการใช้ประโยค If-clause แบบที่ 3 คือ ไม่มีทางเป็นจริง แปลงเป็นญี่ปุ่น อิชั้นเลยใช้ประโยคว่า
もし、その飛行機に乗ったら、今、ここにいないかもしれないね。
น่าสนใจใช่มั๊ยล่า เก่งเหมือนกันนะเรา คือชอบประโยคนี้ของตัวเองมาก (ซึ่งจริงๆก็ไม่รู้ว่าถูกไวยากรณ์หรือป่าว) แต่ก็ภูมิใจกับตัวเองนะ อิอิ