วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557

でしょう

สืบเนื่องจากครั้งที่แล้ว "งานมโนต้องมา" มี 文末表現 นึง ที่น่าสนใจมาก มาจากประโยคนี้ค่ะ


マムちゃん:(26)無理だよ。ありえないわ、そんなの。私はただ一般人なんだから、彼は(11)宇宙人だよ。人間は(11)宇宙人と付き合えるわけないでしょ

คือ 文末表現 “でしょう”ค่าา แล้ว でしょう คือ อะไรรร


1 「でしょう」(普通形 รูปธรรมดา「だろう」 ใช้ในการบอกเล่าสิ่งที่คาดคะเนโดยเป็นเรื่องที่ผู้พูดไม่แน่ใจ
Nは/が)
V(普通形รูปธรรมดา
A
NA
N
でしょう
(1)あしたは晴れるでしょう。
(พรุ่งนี้คงจะอากาศแจ่มใส่)
(2)きょうの試合では、Aチームが勝つでしょう。
(การแข่งขันวันนี้ทีมAคงจะชนะ)
(3)A:この問題は、あしたの試験に出るでしょうか。
((คิดว่า)คำถามข้อนี้จะออกข้อสอบพรุ่งนี้ไหม)
  B:たぶん出るでしょう。
(คิดว่าคงจะออก)
(4)A:きのう、外語大のチームは勝ちましたか。
(เมื่อวานทีมมหาวิทยาลัยโตเกียวภาษาต่างประเทศชนะไหม)
  B:わかりません。でも、たぶん勝ったでしょう。
(ไม่รู้ แต่คิดว่าคงชนะ)
(5)A:あそこに人がいますね。あの人はだれでしょう。
(ตรงโน้นมีคนอยู่ คนโน้นคือใครกัน)
  B:たぶん田中さんでしょう。
(คิดว่าคงเป็นคุณทานากะ)

2 「でしょう」ใช้เติมต่อท้ายรูปธรรมดา แต่สำหรับ「Nだ」「NAだ」จะอยู่ในรูป 「N」「NA 」 นอกจากนี้ยังใช้ต่อท้ายรูป 「た形」「ない形」 ได้ด้วย
(6)A:田中さんは来ますか。
(คุณทานากะจะมาไหม)
  B:たぶん来ないでしょう。
(คิดว่าคงจะไม่มา)

3  สามารถละ「 N は/が」 ได้ ในกรณีที่เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า Nは/が」หมายถึงอะไร

4 「でしょう」เป็นการคาดคะเนด้วยความรู้สึกส่วนตัวจากมุมมองของผู้พูดเอง ไม่มีหลักฐานหรือมูลเหตุที่ชัดเจน

5  สามารถใช้ 「~でしょうか」ในการถามอย่างสุภาพได้ ในกรณีนี้ไม่มีความหมายของการคาดคะเน
(7)客:これはいくらでしょうか。
(ลูกค้า : นี่เท่าไหร่ครับ(คะ))
  店員:それは1000円です。
(พนักงานร้าน:นั่น1000เยนครับ(ค่ะ))

ส่วนเสริม
6 รูปธรรมดาของ「でしょう」คือ「だろう」
(8)あしたは雨が降るだろう。
(พรุ่งนี้คงจะฝนตก)
(9)田中さんは来ないだろう。
(คุณทานากะคงจะไม่มา)
(10)Aチームが勝っただろう。
(ทีมAคงชนะ)

7 สำหรับประโยคที่ลงท้ายประโยคด้วย「~でしょう」หากยกทำนองเสียงสูงที่ท้ายประโยค จะแสดงความหมายว่าผู้พูดต้องการถามผู้ฟังให้แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นถูกต้อง
(11)あしたは日曜日でしょう?
(พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ใช่ไหม)
(12)これは田中さんのでしょう?
(นี่เป็นของคุณทานากะใช่ไหม)

 นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการถามเพื่อให้ผู้ฟังแน่ใจหรือรำลึกถึงเรื่องที่ผู้ฟังรับรู้หรือจดจำ ในกรณีนี้บางครั้งไม่ยกทำนองเสียงขึ้นสูง
(13)わたしがさっき言ったでしょう。
(เมื่อครู่ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่หรือ)
(14)ほら、あそこにコンビニがあるでしょう。
(นั่นไง ตรงโน้นมีร้านสะดวกซื้ออยู่ไม่ใช่หรือ)

ที่มา http://www.coelang.tufs.ac.jp/modules/ja_th/gmod/contents_m/explanation/075.html

โดยสรุปก็คือ でしょう คือ การคาดคะเน หรือการแสดงความไม่มั่นใจ นั่นเองค่ะ รู้ว่ามี ใช้บ้าง แต่ไม่บ่อย เป็น 文末表現 ที่น่าสนใจค่ะ ^^

งานมโนต้องมา

    สวัสดีค่าาาา วันนี้ อิฉันมีบทสนทนามานำเสนอ ไม่ใช่บทสนทนาที่เกิดขึ้นกับใครที่ไหนยังไงหรอกค่า เป็นบทสทนาที่ อิฉัน และ เพื่อน มโนขึ้นมาเองล้วนๆ เพื่อใช้ประกอบวิชา JP write ซึ่งทำให้อิฉันรู้ว่า ได้เรียนรู้อะไรใหม่เพิ่มขึ้นมากค่ะ จากการทำงานกับเพื่อน เพราะเพื่อนรู้อะไรที่อิฉันไม่รู้ และคงจะเป็นสิ่งที่ดีมาก ถ้าอิฉันเรียนรู้ในสิ่งที่นั้น แล้วจดจำ และปรับใช้ได้ในสถานการณ์จริง อิอิ 

เรื่องราวจะสนุกสนานขนาดไหน มี 文末表現 ใด ที่น่าสนใจบ้าง ไดูกันค่าา

夏休みに、くま君とマムちゃんはパッタヤーへ旅行に行った。

くま君:ああ、海がきれいだな
マム:そうね。海、山、滝 (1)自然 は何でもきれいだね。
くま:でも、お前ほどきれいじゃないよ。もう30歳なのに、(2)童顔なのでいつも中学生と間違えられる。
マム:そんなことないでしょう。嘘なんかつかないでよ、くま君。
くま:俺はごまかしたりうそついたりしない、(3)まっすぐな心をもっているんだ。ほら、空に輝いている(4)無数の星もお前ほどきれいじゃない。
くま君はそういって、マムちゃんにバラ(5)一輪をあげた。
くま:お前は俺の世界で一人だけの(6)最愛のダーリンなんだ。ずっと俺のそばにいて。一(7)生
マム:うん、くま君は最初の彼氏じゃないけど、あたしの最(8)後の彼なんだー。

空から大きいものの何かが海に落ちてしまって、大きい波になりました。マムちゃんは(9)びっくりして、何も言わない。

マム:あっ、あっちあっち。さっき見た? さっき大きい波が来た
くま君:波は(10)当然だよ。海なんだから。
マムちゃん:そうじゃなくて、その波がめっちゃでっかくて、太陽まで波が上がったの。火星から(11)宇宙人が来たのかも
くま君:そんなバカな!
マムちゃん:そんな何かして
くま君:ヨーロッパからの(12)外国人が夜によくウィンドサーフィンしていると聞いたから、もしかして、彼らかもよ。じゃ、俺は確認しに行くから。お前はここで待ってろ

マムちゃんは待とうと思ったが、やっぱり心配なので彼の所に行きました。
宇宙船から宇宙人が4人出てきた。彼らはくま君の顔と間と同じからだで、髪の毛から足まで(13)そっくりだった。しかし服は何も着ておらず、(14)まっぱだかでした。

マムちゃんはそれを見て、(15)あ然として何も言えません。

宇宙人1:おい、お前を迎えに来た
宇宙人2:もう待たねーぞ、そろそろ帰ろうぜ。土星の皆は心配なんだからな。お前は皆に知られて(16)有名人なんだから
宇宙人3:わざわざ、今までない新しい技術で作られた(17)最先端の宇宙船で迎えに来たんだから
くま:俺は地球の「日本の味の素」に勤めている(18)社会人になちゃったから、もうすぐには帰れない

宇宙人の3人は変身しました。マムちゃんはキャーと叫んで、(19)無意識になって、海に倒れた。
くま君はマムちゃんを見て、自分正体が知られたと分かり、顔色が変わって(20)まっさおになりました。くま君はマムちゃんが気づくのを待っていた。
マム:くまくん!さっきは夢だったよね。くま君は宇宙人なんてありえないよね
くま君:あ、そのことなんだけど、実は俺・・・・宇宙人なんだ。本当にごめん。でも、ずっとお前のことが好きなんだ。お前がもう本当のことを知ったんだから、俺はもうここにいられないんだ。俺はもう帰らないと。本当にごめんなさい。
マムちゃんはずっと黙っていた。
くま君:俺、帰る前にこれを渡しとこう。日本に帰る前に絶対開けないでな。
くま君はそう言って、小さい箱をマムちゃんに渡しました。すぐ、くま君は宇宙船に入って、空を飛び出しました。

レストランで、マムちゃんは花ちゃんと食事しながら、話しています。

花ちゃん:くま君は本当にだれよりも(21)最悪の悪者だ!キミを捨てるなんて!(22)真っ赤な顔をして怒っている
マムちゃん:(悲しくて(23)うかぬ顔している)彼がいないと、私は一人でいられない(24)寂しがり屋だから。
マムちゃん:すべて、私が悪いってことよね。
花ちゃん:マムちゃんは(25)全然悪くないよ。キミを捨てたくま君こそ悪いんだ
マムちゃん:これから、私はどうすればいいの?
花ちゃん:キミは彼を取り戻さないと!諦めちゃだめだよ。
マムちゃん:(26)無理だよ。ありえないわ、そんなの。私はただ一般人なんだから、彼は(11)宇宙人だよ。人間は(11)宇宙人と付き合えるわけないでしょ
花ちゃん:キミはまだ彼を愛してる?
マムちゃん:愛してるよ。
花ちゃん:なら、問題なし。今、キミはただお金をたくさん貯金するだけでいい
マムちゃん:何の為?
花ちゃん:宇宙船を買う為だ。それを買って、宇宙船に乗って、彼に会いに行けばいいんじゃない?そして、(27)本人の前で、「愛してる」って言ってね。愛とお金さえあれば、何にも勝てる。愛とお金は(28)無敵だよ。
マムちゃん:そんなにお金ない!私はまだ(29)社会人になっていない、ただの学生なんだから。本当に宇宙船を買うのだったら、先に(30)頭金の500万も払わなければならないし・・・

外から宇宙船がレストランに飛んできました。
くま君が現しました。マムちゃんのところに来て、マムちゃんの耳に囁きました。。。。
くま君:一緒に行こう。お前がいないと、俺はいられないんだ。ずっとそばにいてくれないか。

ทำให้อิฉันค้นพบว่า มีการใช้ よ กับ ね เยอะมาก ซึ่งคำทั้ง 2 ตัวนี้อิฉันจะเลี่ยงไม่ใช้ตลอด ไม่ใช่อะไร กลัวผิด 55555555 แต่จำได้นะคะ ว่า ね เเปลเป็นไทย ก็ประมาณว่า เนอะ คือต้องการให้คู่สนทนาเห็นด้วย หรือเป็นเรื่องที่แบบ จริงอยู่แล้ว ย้ำเพื่อความมั่นใจ
       ส่วน よ นี่ บอกตอนที่ คู่สนทนาไม่รู้อะไรเลย บอกข้อมูลใหม่ให้คู่สนทนา ปกติอิฉันไม่ค่อยใช้ค่ะ ด้วยเหตุผลเด็ดเลยคือ ไม่ได้มีผลต่อความหมายของประโยคมากนัก.... ใช่มะ เวลาพูดจริงก็นึกไม่ออก ออกมาบ้างแหละ พอเผลออ่ะ แต่ก้ต้องหวนคิดทุกทีว่าใช้ถูกรึป่าว 
       แต่พอได้อ่านบทสนทนาที่มโนขึ้นมานี้ อืมมม ดูเป็นธรรมชาติดีนะ คือตอนทำอ่ะ อิฉันคิดออกแต่แบบ คำศัพท์ กับ ไวยากรณ์ที่ถูกต้อง ส่วนเพื่อนน่ะ เป็นคนเกลาให้ภาษามันเป็นภาษาพูดมากยิ่งขึ้น อืมม สกิลล์อิฉันยังต่ำนัก หวังว่าไปญี่ปุ่นจะช่วยได้นะ แต่จะต้องพยายามพูดค่ะะะะ เดี๋ยวก็สมูทลื่นปากแถมถูกความหมายด้วย ใช่มั๊ย??



วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

だよねー

วันนี้จะขอมา พูดเรื่อง だよね สักนิดนึง คือ ชอบมากอ่ะ 5555 มีความหมายว่า เนอะ ใช่มะ คือตอนนั้นมีโอกาสได้ดูซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องนึง ชื่อ switch girl อ่ะค่ะ เรื่องก็เป็นเรื่องของเด็กวัยรุ่นธรรมดา จึงมีศัพท์วัยรุ่นออกมาให้เรียนรู้ได้เยอะ บอกเลยว่า เป็นคนที่ไม่ได้มีอินเนอร์กับญี่ปุ่นสักเท่าไร
       
         ดังนั้น ตอนก่อนดูซีรีย์เรื่องนี้ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า だよね เเปลว่าอัลไลลลล พออ่านซับปุ๊บ ก็ชอบปั๊บ ตื่นตะลึงว่า

" เห้ยยยยยย ภาษาญี่ปุ่นก็มีคำแบบนี้ เหมือนกับภาษาไทยด้วยหราาาาา"
.......... แล้วมันจะไม่มีได้ไงฟระ คนเหมือนกัน

 ก็ได้ค้นพบว่า โลกนี้ มันช่างกว้างใหญ่นัก (เกี่ยวตรง???)

‘それはあんたじゃないはずよ。あんたはかわいくて、かっこいい。そんなことはしないはずね。’
‘だよね。’
‘それに、あんたのほうがきれいですね。’
‘だよね。’

คำว่า よね มีความหมายประมาณว่า เนอะ ใช่มั๊ย แบบรู้อยู่แล้ว แต่ต้องการเช็คกับออีกฝ่ายหนึ่ง เป็น 文末表現 ที่เราก็รู้ดีอยู่แล้ว ถึงขั้นใช้บ่อยเลยใช่มั๊ยล่ะ ตอนแรกอิฉันก็รู้แค่นั้นเหมือนกัน พอรู้ว่ามันมีความหมายยังงี้ด้วย อึ้งสิคับพี่น้อง เป็นอีกคำนึงที่ชอบมากค่ะ だよねー

ไม่ใช่หมาไม่ใช่หรอ

ちゃうちゃうちゃう?

เคยได้ยินประโยคนี้มั๊ย 

คนที่เคยอยู่คันไซ น่าจะเคยได้ยินบ้าง 

ถ้าแปลเป็นภาษากลางก็คือ

いぬじゃないじゃない? = ไม่ใช่หมาไม่ใช่หรอ

ちゃう ที่หนึ่ง หมายถึง いぬ
ちゃう ที่สองหมายถึง じゃない
ちゃう ที่สามหมายถึง じゃない

จึงแปลออกมาได้เป็น ไม่ใช่หมา = 犬じゃない ไม่ใช่หรอ = じゃない?
じゃない แรก แสดงความหมายว่า ไม่ใช่
じゃない ที่สอง แสดงความหมายในเชิงคำถาม 

ภาษากลางก็น่าสนใจจะตายอยู่แล้ว พอเป็นภาษาคันไซ ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่

ちゃうちゃうちゃう

ปลายเดือนนี้จะได้ไปแลกเปลี่ยนที่โอซาก้า จะลองเอาไปใช้ดูนะคะ (ถ้ามีโอกาสเจอหมาที่ไม่ใช่หมา)

่じゃない?

 เมื่อคราที่แล้ว เรื่อง ホルモン อิฉันก็เจอ 文末表現 หนึ่งที่น่าสนใจ และคิดว่า ตัวเองชอบใช้ 表現 นี่มาก เพราะคิดว่ามันมีเสน่ห์ น่าค้นหา และน่าคิดอย่างประหลาด นั่นก็คือรูป じゃない? ไม่ว่าจะเป็น んじゃない・じゃないじゃない・ではないでしょうか เป็นต้น จึงได้ลองคิดย้อนหวนไป ตอนไปอินโดนีเซีย และได้ไปพูดคุยเป็นภาษาญี่ปุ่นกับเพื่อนชาวอินโดนีเซียมา คือเรื่องมีอยู่ว่า คุยกันเรื่องศัลยกรรมกันค่ะ 


เพื่อนอินโด : 整形したいですか。
เพื่อนจุฬา : わたしは整形したくないです。マプランさんなら。。。
อิฉัน : ちょっと待って、私、もうきれいじゃない



อารมณ์ประมาณว่า เน่! ฉันสวยอยู่แล้วไม่ใช่หราาาาา  ที่อิฉันชอบมัน เพราะมันไม่ได้บอกตรงๆ แบบ きれいです อ่ะ แต่เป็นแบบ きれいじゃない (เสียงสูงนะคะ) แบบ สวยไม่ใช่หรออ นี่ก็อีกอย่าง เสียงต่ำไปนี่ซวยเลย 55555 อืม ค่ะ เลยคิดว่า น่าสนใจและท้าทายในการพูดมากทีเดียวเชียว



ホルモン

      เนื่องจากว่า ในวิชา JP AV (ชื่อวิชาที่เผลอพูดที่อื่น หนุ่มเป็นต้องสะดุ้ง) ได้รับคำสั่งจากอาจารย์มาว่า ให้ทำซับละครเรื่อง ฮอร์โมนค่า แหม่ เกิดมาเพิ่วเคยทำ เรื่องแปลนี่ไม่อยากเท่าไร ตอนตัดต่อ และใส่ซับนี่แหละค่าาาา นี่อิฉันเรียนอักษรา หรือ นิเทศค่ะ พูดค่ะ แต่ก็ดีนะคะ เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ทรงคุณค่ามากจริงๆ และแน่นอนค่ะ ธรรมดาของภาษาญี่ปุ่น ต้องมี 文末表現 มาเพียบอยู่แล้ว ว่าแล้วก็อย่าเสียเวลาเลยค่ะ ไปดูกันเลย





รู้สึกว่า พอดึงตัวเองออกมาจากรูป んです แล้ว ก็พบเจอ 文末表現 ได้มากมายเลยนะคะ อย่างเช่น
 早く起きなさい 
行かないとだめ 
気をつけなさい
ほら、もういいでしょ
お坊さんも言ってたんじゃない
เอาจริง พอได้มาจับสังเกตุดูดีๆแล้ว  文末表現 มีเยอะมาก และใช้ได้ไม่ยากเลย แค่ลองใช้ ก็ใช้ได้ อืมม.... 

ออกจาก んです มาซบอก 表現 อื่น

สวัสดีค่าา หลังจากห่างหายไปนาน อิฉันก็คิดขึ้นมาได้ว่า อิฉันได้ศึกษาและจับสังเกตุตัวเองในหัวข้อ 文末表現 เรื่อง んですมานานพอสมควรแล้ว และคิดว่าการใช้ของตัวเองดีขึ้นมาก แต่กระนั้น ก็ยังประสบปัญหาที่ว่า การใช้んですนั้น ไม่มีผลทำให้ความหมายของประโยคเปลี่ยนแปลงสักเท่าไร ในฐานะเด็กต่างด้าว ตัวน้อยๆ ตาดำๆ ที่มีความต้องการเพียงแค่สื่อสารกับเขารู้เรื่อง เวลาพูดจริงจึงไม่มี んです ออกมามากเท่าไรนัก ถ้าเช่นนั้น จึงลองเปลี่ยนใจ มาศึกษา 文末表現 ที่มีความสำคัญกับความหมายของประโยคดูบ้าง
(練習文1)うるさい、だまって聞。(命令)

(練習文2)うるさい、だまって聞き
なさい。(命令)

(練習文3)さっさと歩
。(命令)

(練習文4)さっさと歩き
なさい。(命令)

(練習文5)食事中に立ち歩くのは
やめろ。(禁止)

(練習文6)食事中に立ち歩くのは
やめなさい。(禁止)

(練習文7)ぼくは、ぜったいに行き
ません。(強い意志)

(練習文8)ぼくは、ぜったいに行か
ない。(強い意志)

(練習文9)歩きながら本を読んでは
いけない。(禁止)

(練習文10)もう、帰っ
。(強い命令)

(練習文11)さあ、どい
、どい。(強い命令)

    強い言い方の音声練習(その2)
(練習文1)ぼくは、行かない
つもりだ。(強い意志)

(練習文2)行き
たい、行きたい、ぜひ行きたい。(強い希望・願望)

(練習文3)君は、絶対に行く
べきだ。(当然・強い命令)

(練習文4)君は、絶対に行か
ねばならない。(当然・強い命令)

(練習文5)小学生になったら、近所の人には進んで挨拶をし
なさい。 
                            (当然)
(練習文6)そんなこと、ある
はずがない。(打ち消し)

(練習文7)静かにし
なさい。(強い命令)

(練習文8)うそをついては
いけません。(強い命令)

(練習文9)ぐずぐずしないで、早く出発
しろ。(強制、命令)

(練習文10)もう少し、はやく歩い
てくれ。(非難、命令)

ที่มา http://www16.ocn.ne.jp/~ondoku/modariteibunnmatu.html

ประโยคเหล่าอิฉันไปค้นเจอมา แสดงให้เห็นถึง 文末表現 ที่มีผลต่อความหมาย ไม่ว่าจะเป็น รูปคำสัง อย่าง なさい หรือ รูปห้าม อย่างだめ เป็นต้นนน อันที่จริงแล้ว ประโยคพวกนี้ใช้บ่อยมาก ไม่น่าไปจมอยู่กับ んです ซะนานเลย แต่คิดอีกแง่นึง เพราะรูปพวกยี้ใช้บ่อยไง แต่ んです ไม่ได้ใช้ เลยต้องท้าทายตัวเองได้การใช้เป็น 目標 ซะเลย ใครจะว่ายังไงไม่รู้ แต่อิฉันคิดว่า ความรู้ของอิฉันพัฒนาขึ้นนะ อิอิ